ทุกๆท่านเคยสงสัยไหมว่าส่งพวงหรีดทำไม ส่งไปเพื่ออะไร ส่งไปแล้วก็เน่าเสียเปล่า และ สุดท้ายก็ต้องทิ้งขยะอยู่ดี วันนี้พวงหรีดบารมี มีคำตอบว่าทำไมเราถึงต้องส่งพวงหรีดไปพิธีศพต่างๆ และ การไม่ส่งพวงหรีดนั้นเป็นยังไง และ งานศพที่ไม่มีพวงหรีดนั้นดูเศร้าหมองแค่ไหน
การส่งพวงหรีดในงานศพนั้นมีความหมายอย่างสำคัญในสังคมและประเพณีไทยมาช้านาน มีหลายเหตุผลที่ทำให้เราต้องส่งพวงหรีดมายังงานศพ ดังนี้:
แสดงความเคารพและกำลังใจ: การส่งพวงหรีดมายังงานศพเป็นการแสดงความเคารพและกำลังใจต่อครอบครัวและคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิต มันแสดงถึงความเสียใจและความกดดันที่มีต่อความสูญเสียในชีวิต
สร้างความเชื่อมโยงในสังคม: การส่งพวงหรีดมายังงานศพเป็นโอกาสที่คนในสังคมมารวมตัวกัน เพื่อให้ความสนับสนุนและกำลังใจกันในเวลาที่ยากลำบาก มันสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผู้คนและสร้างความเข้าใจในความสูญเสียของผู้ใกล้ชิด
สืบทอดประเพณี: การส่งพวงหรีดมายังงานศพเป็นการสืบทอดประเพณีและธรรมเนียมประจำวันที่มีความหมายในสังคมไทย มันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและศูนย์รวมของความเชื่อที่มีต่อการเสียชีวิตและชีวิตหลังความตาย
การเป็นส่วนหนึ่งของงานศพ: การส่งพวงหรีดมายังงานศพช่วยให้คนอื่นเข้าใจว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของงานศพและเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจและความเชื่อมโยงกับครอบครัวและเพื่อนร่วมงานของคนในสังคม
การส่งพวงหรีดมายังงานศพเป็นการแสดงความเอาใจใส่และเคารพในช่วงเวลาที่คนในครอบครัวหรือสังคมมีความทุกข์ใจ มันมีความหมายอย่างสำคัญในวัฒนธรรมและประเพณีของไทยและเป็นการแสดงความเห็นใจและกำลังใจต่อคนในเวลาที่ยากลำบากของชีวิตขาดสายตามา.
ส่งพวงหรีดในงานศพไม่ได้เป็นเรื่องแค่การส่งของขวัญในมิตรภาพเพียงอย่างเดียว มันเป็นการแสดงความเห็นใจและร่วมใจในช่วงเวลาที่ผ่านมาและเป็นสัญลักษณ์ของความรักและกำลังใจในช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิต.
หากทุกๆท่านได้ลองจินตนาการภาพงานศพที่ไม่มีพวงหรีดดู ภาพนั้นคงเป็นภาพลานศาลาวัดที่โล่งและว่างเปล่าขาดซึ่งสีสันของดอกไม้ มีเพียงเก้าอี้และโรงศพ คงเป็นภาพที่ไม่น่าดู นอกจากนี้ผู้ที่อยากเข้ามาร่วมงานแต่ไม่สามารถมาได้นั้น ก็ไม่สามารถให้เกียรติและไว้อาลัยผู้วายชนม์ ซึ่งโดยการให้พวงหรีดนั้นเป็นตัวแทนของบุคคลนั้นๆมาร่วมพิธีเพื่อไว้อาลัย เพื่อเป็นเกียรติ และ เพื่อให้รับรู้ถึงการจากไปของบุคคล
พิธีศพที่ไม่มีพวงหรีดและปัญหาขยะพวงหรีด
แต่กระนั้นก็ตามการส่งพวงหรีดก็ทำให้เกิดปัญหาต่างๆนาๆมากมายเช่นเดียวกัน เพราะ โดยส่วนมากแล้วนั้นเมื่อพิธีเสร็จสิ้นพวงหรีดจำนวนมากก็จะถูกทำให้เป็นหน้าที่ของวัด ผู้ดูแลศาลา และ หลวงพี่ เพื่อมาทำลายขยะพวงหรีดเหล่านี้ ซึ่งด้วยการค้นหาของเราแล้วนั้นขยะที่เกิดขึ้นในวัดนั้นล้วนเป็นขยะที่เกี่ยวข้องกับขยะพวงหรีด ซึ่งในบางโอกาศนั้นขยะเหล่านี้นับเป็นร้อยล่ะ 82% ของขยะทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในวัดในบางโอกาศ จึงได้ทำให้มีวัดต่างๆนาๆออกมาระงับห้ามส่งพวงหรีด ซึ่ง #วัดชลประทานรังสฤษดิ์เป็นวัดแรกที่มีการออกมาระงับการส่งพวงหรีด เนื่องจากปัญหาขยะพวงหรีดที่ส่งผลไปยังโรงเรียนในบริเวณทำให้เด็กนักเรียนเหล่านี้ไม่สามารถเรียนได้
ด้วยเหตุนี้เองจึงต้องหันมาใช้พวงหรีดบารมี พวงหรีด ESG อันดับ 1 ที่มีรูปแบบการจัดการโดยใช้ระบบ RAR Sustainable Solution ซึ่งจะช่วยลดขยะพวงหรีดที่เกิดขึ้นในวัด ไม่ตกเป็นภาระหน้าที่ของวัดในการกำจัดขยะพวงหรีด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องนำไปเผาทิ้งเมื่อพิธีเสร็จสิ้น อีกทั้งยังได้บริจาคทำบุญไปยังมูลนิธิที่ต้องการพร้อมรับใบอนุโมทนาบุญเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีท้ายปีได้อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เองนอกจากเราจะสามารถรักษาประเพณีอันดีงามไว้ได้แล้ว เรายังสามารถนำประโยชน์ต่างๆคืนสู่สังคมได้จริง และ ไม่เบียดเบียนวัดและชุมชนต่างๆโดยการทิ้งภาระหน้าที่ขยะให้กับทางวัด หลวงพี่ และ ผู้ดูแลศาลาทุกๆคน